วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เทคโนโลยีการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์

เทคโนโลยีการรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์

เทคโนโลยีในการรีไซเคิล ประกอบด้วยกระบวนการหลักอยู่ 3 กระบวนการ คือ การแยกชิ้นส่วน กระบวนการทางเคมีและกระบวนการสิ่งแวดล้อม รายละเอียดมีดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 

ทําการชั่งน้ำหนัก บันทึกและคัดแยกผลิตภัณฑ์ที่รับ โดยชั่งน้ำหนักเพื่อตรวจสอบลักษณะของขยะอิเล็กทรอนิกส์ และทําการคัดแยกส่วนประกอบที่เป็น พลาสติก โลหะและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ออกจากกัน โดยจะทําการคัดแยกพลาสติกและโลหะที่ปนเปื้อนออกจากกันและทําการชั่งน้ำหนักขายในขั้นตอนต่อไป สําหรับ ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์จะถูกส่งเพื่อทํา
การแยกส่วนประกอบต่อไป

ขั้นตอนที่ 2

ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการคัดแยกจะถูกส่งไปยังระบบคัดแยกส่วนประกอบได้แก่

* กระบวนการแยกชิ้นส่วน: ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผ่านการคัดแยกจะถูกเข้าเครื่องบด เพื่อลดขนาดของชิ้นส่วนและแยกชิ้นส่วนที่ต้องการออกมา

* กระบวนการทุบ-บด: ชิ้นส่วนที่ผ่านการลดขนาดจะถูกทุบ-บดให้ มีขนาดเล็ก โดยบดให้เป็นผงจนเป็นเนื้อเดียวกัน

* กระบวนการคัดแยกส่วนประกอบ: ระบบจะทําการคัดแยกส่วนประกอบที่สามารถมองเห็นได้ออกมา หรือ ส่วนประกอบที่เป็นโลหะเหล็ก

* กระบวนการย่อย: ชิ้นส่วนที่ผ่านการบดจะถูกบดย่อยให้เป็นผงอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางเคมี

กระบวนการคัดแยกทางกายภาพ

ขั้นตอนที่ 3

ชิ้นส่วนที่ผ่านการคัดแยกโดยวิธีการกายภาพซึ่งจะถูกบดให้เป็นผงจะถูกส่งเข้าสู่ระบบการแยกส่วนโลหะมีค่าออก ได้แก่

* การสกัดขั้นตอนแรก: กระบวนการสกัดขั้นตอนแรกจะทําการสกัดโลหะที่มีค่าที่เคลือบผิวออกมาก

* การสกัดขั้นที่สอง: หลังจากโลหะมีค่าที่ถูกสกัดออกจากชิ้นส่วนแล้วขั้นต่อไปจะทําการสกัดโลหะมีค่าที่ปนเปื้อนในสารละลายกรดที่ใช้ในการสกัดโลหะออกมา

* กระบวนการกลั่น: สารละลายที่ใช้ในการสกัดโลหะมีค่าจะถูกนําไปกลั่นให้บริสุทธิ์เพื่อแยกโลหะที่ปนอยู่ออกมาและสารละลายกรดจะถูกนําไปใช้ใหม่ เพื่อแยกโลหะที่ปนอยู่ออกมาและสารละลายกรดจะถูกนําไปใช้ใหม่

กระบวนการคัดแยกทางเคมี

จากกระบวนทั้งหมดของการรีไซเคิลชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จะถูกควบคุมเรื่องมลพิษประกอบด้วยระบบต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. ระบบดักจับฝุ่น: ระบบจะทําการดักจับฝุ่นที่ฟุ้งกระจายในโรงงานโดยเครื่องดักจับและนําไปบําบัด ก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก

2. ระบบดักจับกรดที่ฟุ้งกระจาย: ระบบจะทําการดักจับกรดที่ฟุ้งกระจายในโรงงานและทําให้บริสุทธิ์เพื่อใช้ในกระบวนการใหม่

3. ระบบบําบัดน้ำเสีย: น้ำเสียที่ถูกปล่อยออกมาจะถูกบําบัดให้ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกําหนด ก่อนปล่อยออกสู่ภายนอกโรงงาน

ที่มา - http://eco-town.dpim.go.th/webdatas/articles/ArticleFile1351.pdf

รายละเอียดสาระน่ารู้อื่นๆ สามารถคลิกดูได้ที่ 
https://www.facebook.com/mrtrecycle


กุ้ยหยู เมืองขยะอิเล็กทรอนิกส์ของโลก

กุ้ยหยู เมืองขยะอิเล็กทรอนิกส์ของโลก 

ใครจะไปทราบว่า เมืองเล็กๆ ณ มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศจีน ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่พัฒนาได้รวดเร็วแบบ ก้าวกระโดด ประเทศหนึ่งในโลก กลับเป็นเเหล่งรวมขยะสารพิษจาก สินทรัพย์ไอที ต่างๆ นาๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่างๆ มากมายต่อผู้คนในเมืองโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้

เหตุจากการรับซื้อขยะอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคัดแยกและทำลายโดยขาดมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมมาควบคุม ส่งผลให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นเลือกใช้วิธีมักง่าย โดยฝังกลบ หรือ เผาทำลายแทนการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม

ในแต่ละปี จะมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือถูกขนมายังประเทศจีนนับล้าน ๆ ชิ้น เพื่อให้คนงานได้คัดแยกเอาชิ้นส่วนที่เป็นทอง หรือ ทองแดงแยกออกมาขาย จุดหมายปลายทางของขยะไอที เหล่านี้ส่วนมากอยู่ที่เมืองกุ้ยหยู ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ของจีน ติดชายฝั่ง และ ไม่ไกลจากเกาะฮ่องกงมากนัก

โดยตัวเลขผู้เจ็บป่วยจากสารพิษ ในเมืองกุ้ยหยู ว่ามีมากถึง 9 ใน 10 ของประชากรทั้งเมือง ซึ่งพบว่าประชากรเป็นโรคผิวหนัง โรคเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ หรือ พิษในเม็ดเลือดและระบบโลหิต ฯลฯ

วิธีแก้ปัญหาของคุณเอง ที่จะไม่ก่อปริมาณขยะ เท่าที่จะทำได้ นั่นก็คือ หากยังมีสภาพที่ไม่ชำรุดมาก ควรนำไปบริจาคให้กับแหล่งที่รับซื้อ หรือ บริจาคให้กับโรงเรียนที่ห่างไกลความเจริญ เพื่อกระจายความรู้ให้เหล่าเด็กทางชนบท เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ต่อไป จะได้ไม่ต้องไปให้พี่น้องเมืองกุ้ยหยู รับสารพิษ อีกนะครับ

หากต้องการอ่านสาระน่ารู้อื่นๆ คลิดได้ที่ 
https://www.facebook.com/mrtrecycle


วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ขยะอิเล็กทรอนิคส์ (E-Waste)

ขยะอิเล็กทรอนิคส์ (E-Waste) 
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mrtrecycling.co.th/  หรือ https://www.facebook.com/mrtrecycle

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-waste เป็นของเสียที่ประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เสียหรือไม่มีคนต้องการแล้ว ขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นประเด็นวิตกกังวล เนื่องจากชิ้นส่วนหลายชิ้นในอุปกรณ์เหล่านั้น ถือว่าเป็นพิษ และไม่สามารถย่อยสลายตามธรรมชาติได้ หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจของยุโรป อาทิเช่น อังกฤษ, เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ถึงกับออกกฎหมายออกมารองรับกรณีดังกล่าวนี้ โดยให้บริษัทผู้ผลิตที่จะวางตลาดในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ต้องจัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปกำจัดก่อนถึงจะวางใหม่ได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญที่ถูกนำออกมาใช้เพื่อแก้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นขยะพิษ ขณะเดียวกันด้วยพฤติกรรมการบริโภคที่มีลักษณะใช้แล้วทิ้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบไม่เพียงแค่ในขอบข่ายของขยะอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น บรรจุภัณฑ์อื่นๆ ก็ถูกทิ้งลงถังขยะมากมายจนล้นเกิน ซึ่งพฤติกรรมการใช้แล้วทิ้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกนี้ หากยังไม่สามารถพัฒนาวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ง่าย หรือ ประเภทใช้แล้วสามารถนำมารีไซเคิลใหม่ได้ อาจก่อให้เกิดปัญหาขยะล้นโลกได้

นิยามของขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตามระเบียบของ เศษเหลือทิ้งของผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Waste Electrical and Electronic Equipment: WEEE) ซึ่งทางสหภาพยุโรปเป็นหน่วยงานที่ได้บัญญัติ ออกมา โดยมีข้อจำกัดความดังต่อไปนี้

• เครื่องใช้ขนาดใหญ่ในบ้าน (เช่น เตาอบ เตาอบไมโครเวฟ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ฯลฯ)
• เครื่องใช้ขนาดเล็กในบ้าน (ที่ปิ้งขนมปัง เครื่องโกนหนวด เครื่องดูดฝุ่น เตารีด ฯลฯ)
• เครื่องมือสื่อสารและเครื่องใช้ในสำนักงาน (คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, พรินเตอร์, โทรศัพท์, เครื่องถ่ายเอกสาร, แฟกซ์ ฯลฯ)
• เครื่องใช้เพื่อความบันเทิง (โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องเสียง เครื่องเล่นซีดี ดีวีดี ฯลฯ)
• อุปกรณ์ให้แสงสว่าง (ส่วนใหญ่เป็นหลอดฟลูออเรนเซนต์)
• อุปกรณ์ไฟฟ้า (สว่างไฟฟ้า, เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า ฯลฯ)
• อุปกรณ์กีฬา และ สันทนาการ (ของเล่นไฟฟ้า เครื่องออกกำลังกาย ฯลฯ)
• เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์
• อุปกรณ์ตรวจสอบ
• ระบบจ่ายอัตโนมัติ (เช่น เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ ฯลฯ )
• เครื่องมือเครื่องใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
• ของเสียที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต




รีดิวซ์ (Reduce) คืออะไร

รีดิวซ์ (Reduce) คือ การใช้วิธีลดการใช้วัสดุ หรือ ผลิตภัณฑ์เพื่อลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้น ซึ่งแบ่งได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

• ปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงสิ่งของหรือบรรจุภัณฑ์ที่จะสร้างปัญหาขยะ (Refuse) 
1. ปฏิเสธการใช้บรรจุภัณฑ์ฟุ่มเฟือย รวมทั้งขยะที่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น กล่องโฟม ถุงพลาสติก หรือขยะมีพิษอื่น ๆ
2. หลีกเลี่ยงการเลือกซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มหลายชั้น
3. หลีกเลี่ยงการเลือกซื้อสินค้าชนิดใช้ครั้งเดียว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานต่ำ
4. ไม่สนับสนุนร้านค้าที่กักเก็บและจำหน่วยสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์ฟุ่มเฟือย และไม่มีระบบเรียกคืนบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว
5. กรณีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประจำบ้านที่ใช้เป็นประจำ เช่น สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดบรรจุใหญ่กว่า เนื่องจากใช้บรรจุภัณฑ์น้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยน้ำหนักของ ผลิตภัณฑ์
6. ลดหรืองดการบริโภคที่ฟุ่มเฟือย โดยเลือกใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการ

• เลือกใช้สินค้าที่สามารถส่งคืนบรรจุภัณฑ์สู่ผู้ผลิตได้ (Return)
1. เลือกซื้อสินค้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีระบบมัดจำ – คืนเงิน เช่น ขวดเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ
2. เลือกซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ หรือมีส่วนประกอบของวัสดุรีไซเคิล เช่น ถุงช็อปปิ้ง โปสการ์ด
3. เลือกซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตเรียกคืนซากบรรจุภัณฑ์ หลังจากการบริโภคของประชาชน


ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mrtrecycling.co.th/

หรือ https://www.facebook.com/mrtrecycle



ข้อดีของการบริหารสินทรัพย์ IT

ในปัจจุบันการจะจัดหาระบบงานไอทีของหน่วยงานต่าง ๆ มาใช้จะต้องผ่านการวางแผนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งได้มีการพัฒนาไปมากจากเดิมที่ แต่ละหน่วยงานย่อยมีการสร้างแผนงานไอทีของตนขึ้นมาเอง มาเป็นการวางแผนแม่บทด้านไอทีขององค์กร โดยรวมหรือการแผนยุทธศาสตร์ด้านไอทีล่วงหน้าเพื่อความเข้มแข็งขององค์กร มีการสร้างแผนงานที่คำนึงถึงความต้องการของหน่วยงานของตน และ ผลประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งทางบริษัท มารีทรานส์ รีไซคลิง ประเทศไทย จำกัด หรือ MRT ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน

ลำดับแรก ๆ ของกระบวนการพัฒนาระบบสารสนเทศด้านการประมวลผลหรือการนำมาใช้ในการทำงานโดยตรงนั้น เริ่มจากการวิเคราะห์ระบบงาน ซึ่งประกอบไปด้วยขั้นตอนสำคัญคือการศึกษาความคุ้มค่าและความเป็นไปได้ของการจัดทำระบบ เพื่อเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อหน่วยงานองค์กรของตน

ความคุ้มค่าควรสามารถคำนวณมูลค่าอันเกิดจากระบบสารสนเทศโดตรง เช่น การลดต้นทุนการทำงาน การลดเวลาในการทำงาน ทั้งในการให้บริการและการบริหาร การลดความซ้ำซ้อนและการเพิ่มความถูกต้องของข้อมูล หรือการอธิบายได้อย่างชัดเจน เช่น การสร้างบริการและนวัตกรรมใหม่ การสร้างความมั่นคงให้กับระบบงาน รวมทั้งการสร้างประโยชน์โดยอ้อมได้แก่ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยงาน เป็นต้น

ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของโครงการด้านไอทีคือการสร้างความมั่นคง ให้ระบบงานเนื่องจากเป็นระบบอัตโนมัติจึงลดปัญหาด้านการบริหารผู้ปฏิบัติงานหรือการบริหารทักษะในการทำงาน ได้


ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mrtrecycling.co.th/

หรือ https://www.facebook.com/mrtrecycle?ref=tn_tnmn



รีไซเคิล (Recycle) คืออะไร

รีไซเคิล (Recycle) คือ การแปรรูปของใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ หรือกระบวนการที่เรียกว่า "รีไซเคิล" คือ การนำเอาของเสียนำกลับมาใช้ใหม่ที่อาจเหมือนเดิม หรือ ในวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ ซึ่งอาจจะนำไปผ่านกระบวนการแปรสภาพต่างๆ เพื่อให้ได้เป็นวัสดุใหม่แล้วนำกลับมาใช้ได้อีก ซึ่งวัสดุที่ผ่านการแปรสภาพนั้นอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์เดิมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ได้ ซึ่งของใช้แล้วจากภาคอุตสาหกรรม จะเป็นจำพวก ไฟเบอร์กล๊าส กระดาษ แก้ว กระจก อะลูมิเนียม และ พลาสติก "การรีไซเคิล" เป็นหนึ่งในวิธีการลดขยะ ลดมลพิษให้กับสภาพแวดล้อม ลดการใช้พลังงานและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของโลกไม่ให้ถูกนำมาใช้สิ้นเปลืองมากเกินไป

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mrtrecycling.co.th/index.php?option=com_content&view=section&layout=blog&id=1&Itemid=288

หรือ https://www.facebook.com/mrtrecycle?ref=tn_tnmn



บริการ การลบข้อมูลสำคัญในสินทรัพย์ไอที

คอมพิวเตอร์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดมาถึงแล้ว แต่ก่อนจะทิ้งเครื่องเก่า คุณต้องแน่ใจว่ากำจัดข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์หมดแล้วจริงๆ คุณควรกำจัดข้อมูลส่วนตัวที่ล่อแหลมให้หมด เพราะอาจตกไปอยู่ในมือของคนที่คิดไม่ดีและทำให้เจ้าของเดิมของเครื่องนั้นได้รับความอับอายอย่างยิ่ง การลบข้อมูลหลายครั้ง การจัดแบ่งพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ใหม่ หรือการล้างฮาร์ดดิสก์โดยการรีฟอร์แมตไม่อาจกำจัดข้อมูลต่างๆได้โดยสิ้นเชิง ถ้าข้อมูลเดิมไม่ถูกเขียนทับหรือถูกสัญญาณรบกวน โปรแกรมต่างๆที่สามารถอ่านข้อมูลได้โดยตรงจากเซ็กเตอร์ของฮาร์ดดิสก์ก็ยังสามารถเรียกข้อมูลเดิมกลับมาได้ วิธีที่จะทำลายข้อมูลหรือทำให้เรียกข้อมูลกลับมาไม่ได้อย่างแน่นอนคือการล้างสนามแม่เหล็ก ล้างข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ เขียนไฟล์ทับลงไป หรือทำลายฮาร์ดดิสก์นั้นเสียเลย

การทำลายข้อมูลสำคัญ ในสินทรัพย์ ไอที ต่างๆ

MRT มีบริการครบวงจรในการทำลายข้อมูลสำคัญ ทั้งในและนอกสถานที่ ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

- Blancco Software เป็นโปรแกรมที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในโลก โดย MRT เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศ ไทย
- การทำลายอย่างสิ้นเชิง Physical Destroy MRT จะใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท การ์ดเนอร์ โปรดักท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการทำลาย
- การทำลายโดยใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้า MRT ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท การ์ดเนอร์ โปรดักท์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการทำลาย

1) การทำลาย HDD ด้วยเครื่องเจาะรู อัตโนมัติ

1.1 ทำลายอย่างเดียว ค่าบริการอยู่ที่ 250 บาท ต่อ 1 HDD
1.2 ทำลายและให้ซากการทำลายกับ MRT ค่าบริการอยู่ที่ 235 บาท ต่อ 1 HDD

2) การลบข้อมูลด้วยวิธีสนามแม่เหล็กไฟฟ้า

2.1 ลบด้วยสนามแม่เหล็กอย่างเดียว ค่าบริการอยู่ที่ 250 บาท ต่อ 1 HDD

2.2 ลบด้วยสนามแม่เหล็กแล้วให้ซากกับ MRT ค่าบริการอยู่ที่ 235 บาท ต่อ 1 HDD
2.3 ลบด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและทำลายด้วยการเจาะรู ค่าบริการอยู่ที่ 350 บาท ต่อ 1 HDD

2.4 ลบด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและทำลายด้วยการเจาะรู และให้ซากกับ MRT ค่าบริการอยู่ที่ 335 บาท ต่อ 1 HDD

3) บริษัทคิดค่าบริการเพิ่มเติม หาก จำนวนในการทำลายไม่ถึง 100 HDD ค่าบริการอยู่ที่ 2,500 บาท
- ซากที่เกิดจากการทำลาย ทางบริษัทจะนำไป รีไซเคิลกลับมาเป็นวัตถุดิบตั้งต้นต่อไป ซึ่ง MRT มีใบอนุญาต ประเภท 105และ 106 ออกโดย กรมโรงงานอุตสาหกรรม ให้เป็นโรงงาน รีไซเคิล อิเลคทรอนิกส์ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

- ทั้งนี้หลังจากลบข้อมูลด้วยการทำลาย และ/หรือ ด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าแล้ว ทางบริษัทจะออกใบรับรองการทำลาย (Certificate of destruction) ให้ ภายใน 1 สัปดาห์ หลังจากการทำลายได้สิ้นสุดลง


ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mrtrecycling.co.th/

หรือ https://www.facebook.com/mrtrecycle?ref=tn_tnmn

การบริการบริหารสินทรัพย์เพื่อใช้เพื่อการบริจาค (Computer To Children)


การบริการบริหารสินทรัพย์เพื่อใช้เพื่อการบริจาค (Computer To Children)


ทางบริษัท มารีทรานส์ รีไซคลิง ประเทศไทย จำกัด หรือ MRT เห็นถึงความสาคัญของการนำ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงานอื่นๆ ที่เหลือใช้แล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นประโยชน์กับโรงเรียนในชนบทที่ไม่มีงบในการจัดซื้อ อุปกรณ์เหล่านี้ การบริจาคในปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นภาระให้กับผู้ได้รับบริจาค เนื่องจากอุปกรณ์ที่ได้รับการบริจาค ขาดความดูแลเอาใจใส่ บ้างชำรุด ทำให้ผู้บริจาคต้องเสียเวลากลับการซ่อมแซมอุปกรณ์นั้นๆ

MRT เล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ จึงได้จัดตั้งหน่วยงานการบริหารสินทรัพย์เหลือใช้เพื่อการบริจาค โดย MRT จะทำการบำบัดข้อมูลเก่าของบริษัทผู้บริจาค และจะลงโปรแกรมลิขสิทธ์ พร้อมทั้งตรวจสอบและปรับปรุงอุปกรณ์เหล่านั้น ก่อนนำไปบริจาคในนามของบริษัทผู้บริจาค เพื่อประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด โดยบริษัทผู้บริจาค จะหมดความกังวลในเรื่องข้อมูลภายในจะรั่วไหล


ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mrtrecycling.co.th/

หรือ https://www.facebook.com/mrtrecycle?ref=tn_tnmn

มารู้จัก บริษัท มารีทรานส์ รีไซคลิง ( ประเทศไทย ) จำกัด

บริษัท มารีทรานส์ รีไซคลิง ( ประเทศไทย ) จำกัด  ก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2554 ประเภทธุรกิจ  บริหารจัดการสินทรัพย์ทางไอที  ขายโปรแกรมและให้บริการล้างข้อมูลแบบถาวร BLANCCO ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท   เริ่มนำโปรแกรม บลังโค่ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยได้การแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายและเริ่มขายอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน  กันยายน  2556  หน่วยงานแรกที่ซื้อไปใช้งาน คือ บริษัท ไมโม่ จำกัด เป็นบริษัทในเครื่อง AIS ที่ดูแลสารสนเทศทั้งหมดให้กับ AIS โดยผลิตภัณฑ์ที่ซื้อไปใช้ PC EDITION และ FILE SHREDDER PC EDITION   ด้วยสาเหตุต้องการป้องกันข้อมูลและการทำ ISO 27001
MRT เห็นถึงความสาคัญของการนำคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สานักงานอื่นๆ ที่เหลือใช้แล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นประโยชน์กับโรงเรียนในชนบทที่ไม่มีงบในการจัดซื้อ อุปกรณ์เหล่านี้ การบริจาคในปัจจุบันนี้กลับกลายเป็นภาระให้กับผู้ได้รับบริจาค เนื่องจากอุปกรณ์ที่ได้รับการบริจาค ขาดความดูแลเอาใจใส่ บ้างชารุด ทำให้ผู้บริจาคต้องเสียเวลากลับการซ่อมแซมอุปกรณ์นั้นๆ MRT เล็งเห็นถึงปัญหาเหล่านี้ จึงได้จัดตั้งหน่วยงานการบริหารสินทรัพย์เหลือใช้เพื่อการบริจาค
โดย MRT จะทำการบาบัดข้อมูลเก่าของบริษัทผู้บริจาค และ จะลงโปรแกรมลิขสิทธ์ พร้อมทั้งตรวจสอบและปรับปรุงอุปกรณ์เหล่านั้น ก่อนนาไปบริจาคในนามของบริษัทผู้บริจาค เพื่อประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด โดยบริษัทผู้บริจาค จะหมดความกังวลในเรื่องข้อมูลภายในจะรั่วไหล เพราะ MRT จะใช้ซอพท์แวร์ Blancco ซึ่งเป็น ซอพท์แวร์ที่ดีที่สุดในโลก ในการล้างข้อมูลทั้งหมด ก่อนการนำไปบริจาค และผู้รับบริจาค จะได้รับอุปกรณ์ที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด พร้อมติดตั้งโปรแกรมลิขสิทธ์ถูกต้องตามกฎหมาย และการดูแลหลังการบริจาค ถึง 3 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ที่รับบริจาคจะสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด โดยหลังการบริจาค MRT จะจัดทารายงานสรุป ส่งให้กับบริษัทผู้บริจาค เพื่อทำการตรวจสอบและเป็นเอกสารอ้างอิงในการตรวจสอบต่อไป กระบวนการทั้งหมดนี้ทางบริษัทผู้บริจาคจะไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งสิ้นโดย  MRTจะได้รับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถนำไปปรับปรุงหรือซ่อมบารุงได้อีก รวมถึงอะไหล่ต่างๆ และ”รอยยิ้ม”จากบริษัทผู้บริจาคและผู้รับบริจาคเป็นผลตอบแทน
สุดท้ายนี้   MRT มุ่งหวังว่าการบริการต่างๆของบริษัทจะทำให้ลูกค้าสามารถก้าวสู่บริษัทสีเขียวเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและมีความเชื่อว่าขยะจะหมดไปจากโลกได้ ถ้าทุกคนช่วยกัน Reduce Reuse และ Recycle