วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ขยะอิเล็กทรอนิกส์ เวทีที่ไทยยังอ่อนซ้อม

คำว่า "อ่อนซ้อม" ความหมายก็น่าจะพอทราบอยู่แล้ว ว่า จะเป็นพวกขาดความต่อเนื่องไม่สม่ำเสมอ เมื่อไปแข่งขันจริงมักจะแพ้เขากระจุยกระจาย 

แล้วคำๆ นี้มาเกี่ยวอย่างไรกับประเทศไทย ก็บอกได้เลยว่า มี นั่นคือเรื่องการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศในนาทีนี้ ซึ่งยังอ่อนซ้อมมากๆ หากเมื่อไปเปรียบเทียบกับประเทศมหาอำนาจ อย่าง ญี่ปุ่น หรือ กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป เพราะผลที่ตามมา หากประเทศไทยไม่สามารถเอาชนะ"วิกฤติมลภาวะจากขยะอิเล็กทรอนิกส์" จะไม่ใช่การเสียใจหรือเสียดายเพียงชั่วข้ามคืนเหมือนการแข่งขันกีฬาธรรมดา แต่ลูกหลานไทยในอนาคตอาจต้องทนรับกรรมต่อไปอีกนาน จากมลพิษเหล่านี้ 

สาเหตุสำคัญที่อ่อนซ้อมของเรื่องพวกนี้ก็คือ กฏหมายไทยถูกดองเค็ม เนื่องด้วย ประเทศไทยนั้นเพิ่งผ่านการขอเสนอญัตติให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาปัญหามลพิษจากขยะและของเสียอันตรายช่วงปี 2550 แผนร่างกฎหมายที่จะใช้ควบคุมประเด็นปัญหาของขยะอิเล็กทรอนิกส์ของไทยนี้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ทำการร่างแผนยุทธศาสตร์การจัดการของเสียและขยะอิเล็กทรอนิกส์และนำส่งให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณา ตามข้อมูลล่าสุดชี้ว่าการประกาศบังคับใช้จะเริ่มต้นในปี 2014 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า

ยิ่งมีความเสี่ยงเหลือเกินว่ากำหนดการ 4 ปีนั้นจะ"ล่าช้า"จนเต่าเรียกพี่ เพราะล่าสุด ประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างเวียดนามประกาศกำหนดการบังคับใช้พรบ.ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในปีหน้านี้แล้ว ทำให้บริษัทไอทีส่งสัญญาณขานรับอย่างคึกคัก

ยิ่งไทยดองเค็มเรื่อง พรบ.กฏหมาย หรือบังคับใช้กฏหมายล่าช้าเท่าใด ความตื่นตัวและกระบวนการที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมที่จะเริ่มต้นช้าลงเท่านั้น ประเทศไทยก็จะสูญเสียประโยชน์อย่างปฏิเสธไม่ได้

โดยทางออกของการสางปมอ่อนซ้อมนี้ คือการผลักดันกฏหมาย พรบ.ขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าลืมว่ากฏหมายไม่ใช่ไข่เค็มที่ต้องดองจนได้ที่ แต่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นเหมือนของสดที่ยิ่งเก็บค้างไว้นานเท่าใด ความสูญเสียก็จะเกิดขึ้นมากน้อยตามระยะเวลาช้าเร็วเท่านั้น และ ผลกระทบก็ตกไปอยู่กับลูกหลานในอนาคตไปอีกไม่รู้เมื่อไหร่จะจบสิ้น 


หากต้องอ่านสาระน่ารู้อื่นๆ คลิกดูได้ที่ https://www.facebook.com/mrtrecycle

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น