ในตอนนี้ จะพูดถึงการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ในกลุ่มประเทศที่ว่าจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ในอนาคต ซึ่งจะเบนมาที่ทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง ทวีปเอเชีย ซึ่งจะมีประชากรในการใช้งานอิเล็กทรอนิกส์พอสมควร ซึ่งประกอบไปด้วย ประเทศมหาอำนาจทางเทคโนโลยี ทุกคนต้องนึกถึง ญี่ปุ่น อยู่แล้ว รองลงมาก็คือ ชาติที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาของแดนอาทิตย์อุทัย นั่นก็คือ เกาหลีใต้ และ จีน ที่ต้องการเอาชนะ ญี่ปุ่น ในทุกๆ อย่าง มาดูกันว่า ประเทศเหล่านี้ จัดการกับเหล่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ กันอย่างไรบ้าง และมีนโยบายไหนที่สอดคล้องกันบ้าง
เริ่มต้นที่ ประเทศจีน มีประกาศใช้ระเบียบการควบคุมมลพิษจากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มบังคับใช้เมื่อ 1 มีนาคม ปี 2007 มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมและลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีกระทรวงสารสนเทศอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักและเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินงานและบัญญัติข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการซากอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่รณรงค์ให้ภาคอุตสาหกรรมระบุเกี่ยวกับการควบคุมสารต้องห้าม และ ช่วงเวลาปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ลงบนสินค้าต่างๆ ซึ่งเป็นข้อบังคับให้มีการติดฉลากแจ้งข้อมูลต่างๆ ของสินค้า ซึ่งมีผลครอบคลุมตั้งแต่การผลิตสินค้าไปจนถึงการจำหน่าย และยังรวมถึงการนำเข้าสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์สู่ตลาดภายในแดนมังกรด้วย แต่ไม่ได้มีผลบังคับกับการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออกแต่อย่างใด
เริ่มต้นที่ ประเทศจีน มีประกาศใช้ระเบียบการควบคุมมลพิษจากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเริ่มบังคับใช้เมื่อ 1 มีนาคม ปี 2007 มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมและลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีกระทรวงสารสนเทศอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักและเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินงานและบัญญัติข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการซากอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีหน้าที่รณรงค์ให้ภาคอุตสาหกรรมระบุเกี่ยวกับการควบคุมสารต้องห้าม และ ช่วงเวลาปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ลงบนสินค้าต่างๆ ซึ่งเป็นข้อบังคับให้มีการติดฉลากแจ้งข้อมูลต่างๆ ของสินค้า ซึ่งมีผลครอบคลุมตั้งแต่การผลิตสินค้าไปจนถึงการจำหน่าย และยังรวมถึงการนำเข้าสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์สู่ตลาดภายในแดนมังกรด้วย แต่ไม่ได้มีผลบังคับกับการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออกแต่อย่างใด
ประเทศเกาหลีใต้ มีนโยบายในการจัดการของเสียโดยยึดหลักนโยบาย 3R มาตั้งแต่ ปี 1993 โดยประกาศนโยบายการลดของเสียจากบรรจุภัณฑ์และนโยบาย Material and Workmanship Improvement System ซึ่งเกี่ยวกับการปรับปรุงวัสดุของผลิตภัณฑ์ในการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และ ในปี 2003 ได้มีนโยบาย Extended Producer Responsibility (EPR) System โดยผู้ผลิตต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งในปัจจุบันได้มีการครอบคลุมผลิตภัณฑ์แล้ว 17 รายการ และในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2006 ได้ประกาศร่างนโยบายเรื่องการรีไซเคิลทรัพยากรในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ และได้มีการประกาศใช้เมื่อ 2 เมษายน ปี 2007 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม ปี 2008 เป็นต้นไป
ประเทศญี่ปุ่นมีการจัดการโดยการดำเนินการโดยยึดหลักแนวคิด 3Rs และหลักการ Extended Producer Responsibility (EPR) โดยได้มีการร่างกฎหมายหลักซึ่งเป็นกรอบของกฎหมายสำาหรับการจัดการขยะและการส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่คือ “Fundamental Law for Establishing a Sound Material-Cycle Society” เพื่อเป็นการสนับสนุนให้สังคมมีการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ อีกทั้งยังเป็นการลด ในการบริโภคทรัพยากรธรรมชาติและลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นการกำหนดกรอบโครงสร้างหลัก การจัดลำดับความสำคัญ และ ระบุหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลกลางองค์กรส่วนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และผู้บริโภค และมีความมุ่งหมายให้มีการรีไซเคิลซากผลิตภัณฑ์ และ ยังมีระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับแนวทางในการจัดการซากอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คือ แนวปฏิบัติในการจัดการของเสียและการรีไซเคิลซากอุปกรณ์ การติดฉลากรักษ์สิ่งแวดล้อมบนผลิตภัณฑ์ และแนวคิดการออกแบบผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ประเทศญี่ปุ่นมีการจัดการโดยการดำเนินการโดยยึดหลักแนวคิด 3Rs และหลักการ Extended Producer Responsibility (EPR) โดยได้มีการร่างกฎหมายหลักซึ่งเป็นกรอบของกฎหมายสำาหรับการจัดการขยะและการส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่คือ “Fundamental Law for Establishing a Sound Material-Cycle Society” เพื่อเป็นการสนับสนุนให้สังคมมีการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ อีกทั้งยังเป็นการลด ในการบริโภคทรัพยากรธรรมชาติและลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นการกำหนดกรอบโครงสร้างหลัก การจัดลำดับความสำคัญ และ ระบุหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลกลางองค์กรส่วนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และผู้บริโภค และมีความมุ่งหมายให้มีการรีไซเคิลซากผลิตภัณฑ์ และ ยังมีระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับแนวทางในการจัดการซากอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คือ แนวปฏิบัติในการจัดการของเสียและการรีไซเคิลซากอุปกรณ์ การติดฉลากรักษ์สิ่งแวดล้อมบนผลิตภัณฑ์ และแนวคิดการออกแบบผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยสรุปแล้ว ประเทศต่างๆ ก็มีนโยบายในการจัดการเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์กัน แตกต่างกันออก ไป อย่างไรก็ตามทุกประเทศก็มีเป้าหมายเดียวกันก็คือ ทำอย่างไรให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ซึ่งประเทศสารขันธ์อย่างเราๆ ก็น่าจะมองเค้าแล้ว ย้อนดูตัวเราได้นะครับ
รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เพจนี้ หรือ ในบล็อกเกอร์ของ เอ็มอาร์ที รีไซคลิง ได้นะครับ คลิกที่ http://mrtrecycle.blogspot.com/หรือ เว็บไซต์ของเรา ที่ http://www.mrtrecycling.co.th/ และ เพจบน facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/mrtrecycle

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น