มุมมองการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ใน
ต่างประเทศ ตอนที่ 1
ในตอนนี้จะมาพูดถึงการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ของ ประเทศที่ว่ากันว่า จ้าวแห่งวิศวกรรม อีกทั้งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของยุโรปอันดับต้นๆ อย่าง เยอรมัน และ ประเทศเกิดใหม่ ซึ่งมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก อย่าง โปแลนด์
ประเทศเยอรมนี ได้รวมเอาระเบียบทั้งสองฉบับ คือ WEEE และระเบียบว่าด้วยการจำกัดการใช้สารที่เป็นอันตรายบางประเภทในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Restriction of Hazardous Substances: RoHS) ใส่ไว้ในกฎหมายของประเทศ คือ “Act Governing the Sale, Return and Environmentally Sound Disposal of Electrical and Electronic Equipment” หรือ เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ The ElektroG โดยต้องการให้บริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีหน้าที่รับผิดชอบเรียกคืนซากผลิตภัณฑ์ ทำการรีไซเคิลและกำจัดซากผลิตภัณฑ์ และได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ปี 2005
ประเทศโปแลนด์มีการนำเอาระเบียบ WEEE และ RoHS มาปรับใช้กับกฎหมายของประเทศ โดยระเบียบ RoHS นำมาปรับใช้กับกฎหมายการห้ามใช้สารอันตรายในเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ปี 2004 และ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2006 ในส่วนระเบียบ WEEE ได้นำามาปรับใช้กับพระราชบัญญัติการจัดการซากเศษเหลือทิ้งของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (WEEE Act) และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ตุลาคม ปี 2005 โดยหน่วยงาน Ministry of Environmental Protection (MEP) หรือ กระทรวงการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ตรวจสอบทั่วไปเพื่อการป้องกันสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานบริหารส่วนกลางก็มีหน้าที่ต้องนำกฎหมายไปใช้ในการประสานงานทั่วไป ตลอดจนการติดตามตรวจสอบการเรียกคืน และ บำบัดเศษซากเหลือทิ้ง
ตอนต่อไปจะเอ่ยถึงการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ของเหล่าประเทศมหาอำนาจแห่งทวีปเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ จีน ว่า พวกเขาทำอย่างไร และ มีนโยบาย อะไร มารองรับ บ้างครับผม
ต่างประเทศ ตอนที่ 1
ในตอนนี้จะมาพูดถึงการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ของ ประเทศที่ว่ากันว่า จ้าวแห่งวิศวกรรม อีกทั้งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของยุโรปอันดับต้นๆ อย่าง เยอรมัน และ ประเทศเกิดใหม่ ซึ่งมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาคยุโรปตะวันออก อย่าง โปแลนด์
ประเทศเยอรมนี ได้รวมเอาระเบียบทั้งสองฉบับ คือ WEEE และระเบียบว่าด้วยการจำกัดการใช้สารที่เป็นอันตรายบางประเภทในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Restriction of Hazardous Substances: RoHS) ใส่ไว้ในกฎหมายของประเทศ คือ “Act Governing the Sale, Return and Environmentally Sound Disposal of Electrical and Electronic Equipment” หรือ เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ The ElektroG โดยต้องการให้บริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีหน้าที่รับผิดชอบเรียกคืนซากผลิตภัณฑ์ ทำการรีไซเคิลและกำจัดซากผลิตภัณฑ์ และได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ปี 2005
ประเทศโปแลนด์มีการนำเอาระเบียบ WEEE และ RoHS มาปรับใช้กับกฎหมายของประเทศ โดยระเบียบ RoHS นำมาปรับใช้กับกฎหมายการห้ามใช้สารอันตรายในเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ปี 2004 และ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2006 ในส่วนระเบียบ WEEE ได้นำามาปรับใช้กับพระราชบัญญัติการจัดการซากเศษเหลือทิ้งของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (WEEE Act) และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ตุลาคม ปี 2005 โดยหน่วยงาน Ministry of Environmental Protection (MEP) หรือ กระทรวงการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ตรวจสอบทั่วไปเพื่อการป้องกันสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานบริหารส่วนกลางก็มีหน้าที่ต้องนำกฎหมายไปใช้ในการประสานงานทั่วไป ตลอดจนการติดตามตรวจสอบการเรียกคืน และ บำบัดเศษซากเหลือทิ้ง
ตอนต่อไปจะเอ่ยถึงการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ของเหล่าประเทศมหาอำนาจแห่งทวีปเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และ จีน ว่า พวกเขาทำอย่างไร และ มีนโยบาย อะไร มารองรับ บ้างครับผม
รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เพจนี้ หรือ ในบล็อกเกอร์ของ เอ็มอาร์ที รีไซคลิง ได้นะครับ คลิกที่ http://mrtrecycle.blogspot.com/ และ เว็บไซต์ของเรา ที่ http://www.mrtrecycling.co.th/

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น